การสกัดกาแฟดื่มมีกี่วิธี?

แต่ละวิธีให้รสชาติแตกต่างกันอย่างไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

ด้วยประวัติศาสตร์ของกาแฟที่มีมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกในศตวรรษที่ 15 โดยผ่านการเพาะปลูกและซื้อขายกาแฟในคาบสมุทรอาหรับและเปอร์เซีย จนล่วงมาถึงศตวรรษที่ 17 ที่นักเดินเรือชาวยุโรปได้เอากลิ่นอโรมาอันหอมหวนจากเมล็ดกาแฟเข้ามาสู่ทวีปยุโรป จนเกิดวัฒนธรรมการสกัดกาแฟในรูปแบบต่างๆ มากมายขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้เราได้สัมผัสกับเมล็ดกาแฟหลากชนิด พร้อมทั้งมีเทคนิคและการสกัดกาแฟเกิดขึ้นอีกมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งหากเอ่ยว่ากรรมวิธีการสกัดกาแฟแบบไหนนั้นดีที่สุดนั้น คงจะตัดสินกันลำบากเพราะการชงแต่ละแบบนั้นมีลักษณะเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นๆ ด้วยเช่นกัน

การดริปกาแฟ การดริปกาแฟนั้นเพิ่งเริ่มเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ที่ประเทศเยอรมันนี แม้จะค่อนข้างใหม่หากเทียบกับประวัติศาสตร์ของกาแฟ แต่ก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว กรรมวิธีการดริปจะใช้การชงด้วยการเทน้ำร้อนผ่านกาแฟบด โดยกาแฟจะค่อยๆ หยด เพราะถูกดึงด้วยแรงโน้มถ่วงผ่านกาแฟบดที่เปรียบเสมือนผืนทราย และผ่านตัวกรองอีกชั้นเพื่อสกัดกาแฟลงในถ้วย ด้วยความละเอียดอ่อนในการชง กาแฟที่ผ่านการดริปนั้นจะให้รสชาติที่มีความซับซ้อนและละเมียดละไม
ข้อดี อุปกรณ์มีให้เลือกหลากหลายและราคาไม่สูงมากนัก ทำได้ง่ายสะดวก และให้รสชาติกาแฟที่ดีสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังลดความเป็นกรด และเน้นรสชาติของกาแฟที่แท้จริง
ข้อเสีย การดริปอาจจะใช้เวลานานกว่าการชงแบบ Espresso

French Press การชงการแฟแบบ French Press นั้นได้ไอเดียมาจากเครื่องคั้นน้ำมะเขือเทศของอิตาลี แล้วนำมาแปลงเป็นเครื่องชงกาแฟแบบแยกกาก ในการชงควรใช้เมล็ดแบบบดหยาบหรือปานกลาง โดยการชงกาแฟด้วยวิธีนี้จะให้รสชาติที่ค่อนข้างเข้มข้นและมีความละเอียดอ่อน
ข้อดี ใช้อุปกรณ์น้อยและประหยัด ตัวเครื่องชงก็มีราคาค่อนข้างถูก สามารถชงกาแฟได้อย่างง่ายๆ และรวดเร็ว
ข้อเสีย เนื่องจากเครื่อง French Press นั้นจะเป็นการทำงานแบบ manual ดังนั้นหากยังไม่ชำนาญก็อาจจะทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ไม่คงที่มากนัก โดยเฉพาะหากแช่กาแฟไว้นานเกินไปก็อาจจะทำให้กาแฟรสขมเฝื่อนได้

AeroPress การชงกาแฟด้วย AeroPress ถือว่าตอบโจทย์วิถีนักเดินทาง เพราะอุปกรณ์น้อยและใช้งานได้ง่าย โดยเครื่องชงมีลักษณะเป็นแบบลูกสูบ และใช้แรงดันของเรากดกาแฟผ่านตัวกรองกระดาษบางๆ รสชาติที่ได้จากเครื่อง AeroPress จะเป็นแบบเดียวกับเอสเปรสโซ หรืออเมริกาโน (เอสเปรสโซและน้ำร้อน)
ข้อดี เครื่อง AeroPress มีขนาดเล็กพกพาได้สะดวก ราคาไม่แพง แถมชงกาแฟได้รวดเร็วอีกด้วย
ข้อเสีย เนื่องจากเป็นเครื่องชงพกพาที่มีขนาดเล็กจึงได้ปริมาณกาแฟไม่เยอะมากนัก

Moka Pot เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot นั้นมีต้นกำเนิดในอิตาลี การชงกาแฟด้วยวิธีนี้จะต้องอาศัยการต้มกาแฟและน้ำเดือด เพื่อให้แรงดันไอน้ำดันน้ำผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดขึ้นไปสู่ตัวภาชนะ ดังนั้นวิธีการนี้จะเป็นการชงที่ทำให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นและซับซ้อนกว่าการชงแบบ French Press
ข้อดี อุปกรณ์ราคาประหยัด ทำความสะอาดง่าย
ข้อเสีย เครื่อง Moka Pot นั้นหากใช้ไปนานๆ ความดันอาจจะลดลงได้ ดังนั้นรสชาติกาแฟอาจจะไม่ดีเหมือนช่วงแรกๆ

Rok Espresso เป็นเครื่องชงกาแฟแบบ Manual ที่เพิ่งผลิตออกมาในยุค Millenium นี่เอง เครื่องชง Rok นั้นเน้นการชงแบบเอสเปรสโซตามชื่อ ซึ่งตัวเครื่องทำจากโลหะผสม และวิธีใช้ก็ค่อนข้างง่ายเพียงกดแขนของเครื่องลงเพื่อสร้างแรงดัน คุณก็จะได้ Espresso ตามช็อตที่ต้องการแล้ว
ข้อดี หากเทียบกับเครื่อง Espresso ทั่วไปนั้นถือว่ามีราคาที่ถูกกว่า ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า และยังเคลื่อนย้ายสะดวกอีกด้วย
ข้อเสีย ตัวเครื่องจะไม่สามารถอุ่นนมได้เหมือนเครื่อง Espresso ทั่วไป ซึ่งไม่ค่อยสะดวกสำหรับคนชอบกาแฟนมหรือทำลาเต้อาร์ท

Espresso Machine หากนึกถึงกาแฟ Espresso นั้นก็คงต้องนึกถึงอิตาลี เพราะถือเป็นต้นกําเนิดแห่ง 
 การผลิตและการชงกาแฟด้วยเครื่อง Espresso ก็ว่าได้ โดยเทคนิคของการใช้เครื่อง Espresso นั้นจะ เป็นการทํางานที่ใช้แรงดันไอนํ้าหรือวา่เป็นแบบลูกสูบขับเคลื่อนเพื่อสกัดกาแฟอันหอมกรุ่นออกมาซึ่ง แต่ละเครื่องก็มีวิธีการใช้และเทคนิคที่ตา่งกันดังนั้นการชงกาแฟด้วยเครื่องEspressoให้อร่อยนั้นจะต้อง อาศัยความชํานาญและความรู้เรื่องกาแฟพอสมควรเลยทีเดียว
ข้อดี เครื่อง Espresso จะให้การสกัดกาแฟที่รสชาติเข้มขน้ โดยเครื่อง Espresso จะสามารถสร้างสรรค์ กาแฟได้หลากหลายรูปแบบไม่วา่จะเป็นEspressoแบบช็อตลาเต้หรือคาปูชิโน่
ข้อเสีย เครื่องที่สามารถสกัดกาแฟได้ดีนั้นมีราคาค่อนข้างสูง และผู้ใช้ก็ต้องมีความเข้าใจและความ ชํานาญพอสมควรนอกจากนี้การดูแลรักษาเครื่องค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อนกว่าการใชเ้ครื่องชงแบบ Manual

Cold Brew หากนึกถึงความสดชื่นและความเย็นสบายนั้น หลายคนจะต้องนึกถึงกาแฟ Cold Brew อย่าง แน่นอน โดยย้อนไปในศตวรรษที่ 16 จะพบว่าชาวเกียวโตใชเ้วลาในการชงกาแฟ Cold Brew เป็นเวลา หลายชั่วโมง โดยการชงแบบสกัดเย็นนี้ช่วยดึงรสชาติอันซับซอ้ นของกาแฟออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งจะ ใช้การสกัดกาแฟด้วยนํ้าเย็นหรือนํ้าในระดับอุณหภูมิห้อง ทําให้ได้รสชาติกาแฟที่ไม่เปรี้ยวมากนัก โดย สามารถเลือกชงได้ทั้งแบบแช่ (Immersion) เช่นการใช้เครื่องชงแบบ French Press และแบบดริปทั่วไป ก็ได้เช่นกัน
ข้อดี สามารถทําเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน และมีสามารถเก็บกาแฟที่สกัดไว้ได้นาน
ข้อเสีย อาจจะใช้เวลายาวนานกว่าปกติและกาแฟที่สกัดจะมีคาเฟอีนค่อนขา้งสูงอาจจะไม่เหมาะกับคนที่ แพ้คาเฟอีน

Syphon Coffee Maker การชงกาแฟโดยใช้เครื่องไซฟอน เป็นเครื่องชงแบบศูนย์ญากาศ หลักการ ทํางานของเครื่องนี้จะอาศัยความร้อนจากการต้มนํ้าในโหลแก้วทรงกลม เมื่อถึงจุดเดือดนํ้าจะถูกดึงขึ้น ไปโถด้านบนที่ใส่กาแฟอยู่ แล้วเมื่อหยุดให้ความร้อน นํ้าที่อยู่บนโถจะไหลลงมาด้านล่างผ่านกระดาษกรอง เป็นกาแฟดําที่ดื่มได้เลย แต่ต้องระวังเพราะกาแฟจะร้อนมาก
ข้อดี สามารถทําเองได้ที่บ้าน นํ้าร้อนจะสามารถสกัดสารกาแฟออกมาได้มาก อุปกรณ์ทํากาแฟสามารถ ใช้ตกแต่งบ้านได้
ข้อเสีย กาแฟที่ได้จากเครื่องไซฟอนมีความร้อนสูงมาก เนื่องจากต้องอาศัยนํ้าที่เดือดเพื่อทําให้เกิดแรง ดันศูนย์ญากาศ และรสชาติขิงกาแฟจะติดขมเพราะความร้อนของนํ้าสูงมาก

เรื่องและภาพโดย

Bwild Kaffe

ผู้พัฒนา ส่งออกกาแฟ

Blog

สินค้าที่คุณน่าจะชอบ